วันที่ 7 กันยายน 2564 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี วีรภัทร จีนด้วง เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก และนายสนธยา จิตต์รำพึง ผู้อำนวยการกองสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความเรียบร้อยและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้บริการฉีดวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” (รอบที่ 1) ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ณ ศูนย์ประสานแผนพัฒนาท้องถิ่นประจำอำเภอวัดโบสถ์ ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้จัดซื้อจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 56,000 โดส เพื่อฉีดให้กับประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 28,000 คน โดยวันนี้มีประชาชนมาเข้ารับบริการฉีดวัคซีนจำนวน 376 ราย ต่อจากนั้น นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อม นายถนอมชัย บุตรวงษ์ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก นายศรายุทธ คชพงศ์ รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก และนางณัฏฐา ชาวดง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เขตอำเภอบางกระทุ่ม เข้าตรวจเยี่ยมความเรียบร้อยและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้บริการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม รอบที่ 1 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่อำเภอบางกระทุ่ม ณ ศูนย์ประสานแผนพัฒนาท้องถิ่นประจำอำเภอบางกระทุ่ม โดยมีประชาชนเข้ารับบริการฉีดวัคซีนจำนวน 325 ราย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะเดียวกัน ว่าที่ร้อยตรีอิทธิพล บุบผะศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เข้าตรวจเยี่ยมความเรียบร้อยและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์แผนพัฒนาท้องถิ่นประจำอำเภอพรหมพิรามด้วย ซึ่งบรรยากาศการฉีดวัคซีนมีประชาชนทั่วไปและพระภิกษุมารอคิวรับบริการฉีดวัคซีนกันตั้งแต่ช่วงเช้าและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สรุปในวันนี้มีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” (รอบที่ 1) ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 701 ราย และมีกลุ่มเปราะบางเข้ารับการฉีดวัคซีนด้วยจำนวน 4 ราย.

วันที่ 6 กันยายน 2564 ที่หอประชุมศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (ส่วนทะเลแก้ว) อำเภอเมืองพิษณุโลก นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก นำคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ และหัวหน้าส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความเรียบร้อยและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้บริการฉีดวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” รอบที่ 1 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก นำโดย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมนายแพทย์ เชาวกิจ ศรีเมืองวงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลกและคณะ สำหรับวัคซีนที่ฉีดในวันนี้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกได้จัดซื้อจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 56,000 โดส เพื่อฉีดให้กับประชาชนชาวพิษณุโลกจำนวน 28,000 คน ที่ลงทะเบียนกับ “พิดโลกพร้อม” และผ่านการคัดเลือกจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ทุกคน ซึ่งในวันนี้เป็นการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนวันแรก และมีผู้เข้ารับบริการฉีดวัคซีนจำนวน 800 ราย โดยมีการบริหารจัดการและจัดลำดับคิวให้บริการประชาชนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จากนั้น นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมคณะร่วมเปิดจุดฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ณ ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก โดยความร่วมมือระหว่างจังหวัดพิษณุโลก หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มี นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายแพทย์ไกรสุข เพชระบูรณิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก และนางเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก โดยวันนี้ได้ดำเนินการให้บริการฉีดวัคซีนเข็มแรก แบ่งออกเป็นวัควัคซีน “ซิโนแวค” ให้กับกลุ่มเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ปฏิบัติหน้าที่ส่วนหน้าในการคัดกรองประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาของตนเองพื้นที่ต่างๆ และวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” รอบที่ 1 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 443 ราย เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันให้กับตนเองในการป้องกันการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมกันนี้ยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมความเรียบร้อยของการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม รอบที่ 1 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ณ ศูนย์ประสานแผนพัฒนาท้องถิ่นประจำอำเภอพรหมพิราม ซึ่งมีประชาชนเข้ารับบริการฉีดวัคซีนจำนวน 354 ราย และศูนย์ประสานแผนพัฒนาท้องถิ่นประจำอำเภอวังทอง มีผู้เข้ารับบริการฉีดวัคซีน จำนวน 1,000 ราย ซึ่งบรรยากาศการฉีดวัคซีนมีประชาชนมารอคิวรับบริการฉีดวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่กันอย่างคึกคัก.

วันที่ 3 กันยายน 2564 ว่าที่ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้รับมอบหมายจาก นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ให้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัดพิษณุโลก ครั้งที่ 5/2564 ณ ห้องประชุมชั้น 3 ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ตำบลหัวรอ อำเภอเมืองพิษณุโลก โดยมี นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในการประชุม พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก และคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ทั้งนี้เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัดพิษณุโลก ได้ตรวจสอบและติดตามพร้อมให้คำแนะนำ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะได้นำไปปฏิบัติและปรับปรุงแก้ไข ตลอดจนพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผลสำเร็จตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งได้เสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการจราจรในเขตชุมชนเมืองพิษณุโลกด้วย.

วันที่ 2 กันยายน 2564 ว่าที่ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย ร้อยเอกสมจิตร ฉ่ำมา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เขตอำเภอวังทอง ได้รับมอบหมายจาก นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ให้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานขุดลอกกำจัดวัชพืชเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ตำบลวังทอง อำเภอวังทอง ร่วมกับ นายบุญเหลือ บารมี นายอำเภอวังทอง นายชัยพัชร สุขนิตย์ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลวังทอง ปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังทองและผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่นตำบลวังทอง ซึ่งได้รับการร้องขอจากทางองค์การบริหารส่วนตำบลวังทอง เพื่อให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก นำเครื่องจักรกลเข้าดำเนินการขุดลอกวัชพืชบริเวณคลองน้ำทิ้งของคลองชลประทานในพื้นที่หมู่ 1 บ้านวังทอง, หมู่ที่ 6 บ้านบึงราชนก, หมู่ที่ 8 บ้านเขาสมอแคลง, หมู่ที่ 10 บ้านดอนม่วง, หมู่ที่ 11 บ้านโรงบ่ม, หมู่ที่ 13 บ้านน้ำเย็น และหมู่ที่ 14 บ้านหนองบอน ตำบลวังทอง อำเภอวังทอง มีความยาวกว่า 7 กิโลเมตร และกว้าง 20 เมตร โดยในการดำเนินการครั้งนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลวังทอง เป็นผู้รับผิดชอบค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการดำเนินการขุดลอกเองทั้งหมด สำหรับคลองน้ำทิ้งแห่งนี้เป็นพื้นที่รับน้ำจากเขาฟ้าและน้ำฝนจากธรรมชาติ ปัจจุบันมีต้นไม้และวัชพืชขึ้นปกคลุมจำนวนมากจนราษฎรไม่สามารถใช้ประโยชน์จากคลองแห่งนี้ได้ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถช่วยระบายน้ำได้สะดวกรวดเร็วป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในช่วงฤดูน้ำไหลหลาก และกักเก็บน้ำไว้ให้เกษตรกรที่อยู่บริเวณสองฝั่งของลำคลองได้ใช้ทำการเกษตรกรในฤดูแล้ง ซึ่งมีพื้นที่ได้รับประโยชน์กว่า 1,000 ไร่ ท่ามกลางความพึงพอใจของผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่นและเกษตรกรในพื้นที่เป็นอย่างมาก.