วันที่ 23 กรกฎาคม 2562 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ และหัวหน้าส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมเยาวชนพิทักษ์ไทย ณ โรงเรียนวังทองพิทยาคม อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก จัดโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกและชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 6 โดยมี พลตำรวจตรีถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ ทั้งนี้ด้วยเด็กและยาวชนทุกคนนับว่าเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าเป็นกำลังอันสำคัญในการพัฒนาประเทศ นอกจากความรู้ที่เด็กๆ เยาวชนทั้งหลายได้รับจากหลักสูตรการเรียนการสอนทั่วไปแล้วสมควรได้รับการหล่อหลอมพฤติกรรมและปลูกฝังทัศนคติที่ดีเพิ่มเติมเมื่อเติบโตขึ้นจะเป็นผู้ใหญ่มีคุณภาพ ปัจจุบันมีภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เข้ามากระทบต่อการพัฒนาการดังกล่าวของเด็กหลายคนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ, อุบัติภัย, อาชญากรรม, ยาเสพติด, อบายมุข, การพนัน, สื่อโซเชียลที่ไม่เหมาะสมหรือหลอกลวงไปในทางไม่ดีหรือการสื่อสารผ่านสื่อโซเซียลที่ผิดกฎหมาย โดยที่เด็กและเยาวชนไม่ทราบหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกจึงร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกและชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 6 จัดโครงกรฝึกอบรมยาวชนพิทักษ์ไทยขึ้น โดยกำหนดฝึกอบรมให้นักเรียนระตับประถมศึกษาชั้นปีที่ 5 และ 6 ของโรงเรียนบ้านบึงพร้าวและระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 และ 2 ของโรงเรียนวังทองพิทยาคม รวมทั้งสิ้น 400 คน ระหว่างวันที่ 22 -25 กรกฏาคม 2562 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกอบรมให้เด็กและเยาวชนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพิ่มพูนความรู้นอกตำราเรียน รู้จักป้องกันและหาวิถีทางหลีกเลี่ยงภัยอันตรายต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น ตลอดจนเป็นพลเมืองที่ดี มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ, ศาสนาและพระมหากษัตริย์ รู้รักสามัคคีในหมู่คณะ รู้จักเสียสละ ช่วยเหลือผู้อื่น มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย มีคุณธรรมจริยธรรม มีความกตัญญูต่อบิดามารดาบุพการีและครอบครัว โดยในการดำเนินโครงการฝึกอบรมครั้งนี้ใช้คณะวิทยากรผู้มีความรู้ความสามารถจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งมีการฝึกอบรมหลักสูตรนี้มากกว่า 400 รุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ.2519 หรือกว่า 40 ปี มาแล้ว จนได้รับรางวัลโครงการดีเด่นแห่งชาติเมื่อปี 2555 และยังมีข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกและครูจากทั้งสองโรงเรียนร่วมกันเป็นครูพี่เลี้ยงอีกจำนวนหนึ่งด้วย.

วันที่ 19 กรกฎาคม 2562 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นางประนอม ทิวะพันธุ์ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร้อยเอก สมจิต ฉ่ำมา และนายวิเชียร ภักดี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เขตอำเภอวังทอง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมคุณธรรม จริยธรรม ประจำปี 2562 รุ่นที่ 3 ณ วัดเกาะแก้วประชานุรักษ์ ตำบลชัยนาม อำเภอวังทองจังหวัดพิษณุโลก จัดโดยกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 เขต เขต 3 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 พิษณุโลก กรมรบพิเศษที่ 4 ค่ายสฤษดิ์เสนาและพุทธสมาคมจังหวัดพิษณุโลก โดยบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงาน "บวร" ได้แก่ บ้าน วัด โรงเรียน ในการขับเคลื่อนและเสริมสร้างให้ความรู้ที่ถูกต้อง ซึ่งในครั้งนี้เป็นรุ่นที่ 3 มีนักเรียนเข้าร่วมโครงการจำนวนทั้งสิ้น 300 คน ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านแก่งจูงนาง โรงเรียนบ้านเนินทองราษฎร์พัฒนา โรงเรียนบ้านม่วงหอม (โรงเรียนสลากกินแบ่งสงเคราะห์ 43) โรงเรียนบ้านหินประกาย โรงเรียนวัดท่าหมื่นราม โรงเรียนวัดพันชาลี โรงเรียนราษฎร์อุปถัมภ์และโรงเรียนบ้านทุ่งยาว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กและยาวชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามากขึ้น อีกทั้งเพื่อให้ได้รับการปลูกฝังระเบียบวินัยและค่านิยมที่ดีงามจากพื้นฐานของคุณธรรม ตลอดจนเพื่อให้เด็กและเยาวชนที่เข้ารับการอบรมได้ศึกษาและทำความเข้าใจตนเองตามหลักธรรมและรู้จักนำไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเองให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป.

วันที่ 19 กรกฎาคม 2562 ว่าที่ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของประกันสังคมสำหรับพนักงานจ้างที่ใกล้เกษียณอายุราชการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ณ ห้องประชุมพระนเรศ อาคาร 2 ชั้น 5 องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ตำบลสมอแข อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก โดยมี นายยศ ชาติรังสรรค์ ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ ภายในพิธีมี นางสาวกมลชนก เหลืองทองนารา เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังพิษณุโลก พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการฯ ร่วมเปิดโครงการ ทั้งนี้สำหรับโครงการให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของประกันสังคมสำหรับพนักงานจ้างที่ใกล้เกษียณอายุราชการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกนี้จัดขึ้นตามแผนพัฒนาบุคลากร 3 ปี (พ.ศ.2561-2563) องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก แผนพัฒนาที่ 4 ด้านการพัฒนาเกี่ยวกับงานในหน้าที่รับผิดชอบและเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่พนักงานจ้างก่อนการเกษียณอายุราชการการให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิและสวัสดิการของตนในระหว่างรับราชการและหลังเกษียณอายุราชการมากขึ้น ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมฯ ครั้งนี้จำนวนทั้งสิ้น 87 ราย โดยได้รับเกียรติจาก นางสุกานดา ไพรศรี นักวิชาการแรงงานชำนาญการ เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมอบรม โดยมุ่งหวังเพื่อให้พนักงานจ้างขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนประกอบกับเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนการเกษียณอายุ สิทธิกองทุนบำเหน็จ บำนาญ และชราภาพสู่วัยเกษียณอายุ สิทธิในการขอรับบำเหน็จหรือบำนาญชราภาพ การขอรับเงินออมชราภาพ เงินทดแทน และกองทุนคืน และสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันสังคมด้านต่างๆ ทั้ง 7 กรณี.

วันที่ 18 กรกฎาคม 2562 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ในฐานะประธานสมาพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคเหนือ นำคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการและพนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เข้าร่วมโครงการประชุมสัมมนาและศึกษาดูงาน “บทบาทของท้องถิ่นกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสังคมผู้สูงอายุ Aging Society” ณ โรงแรมไม้หอมวิลล่า อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ จัดโดยสมาพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคเหนือ โดยมี นายสุเทพ วงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดนคสวรรค์ เป็นประธานในพิธี และมี นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย กล่าวให้การต้อนรับประธานในพิธีและผู้เข้าร่วมสัมมนา ซึ่งมีผู้บริหารฯ สมาชิกสภาฯ ข้าราชการ พนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดและเครือข่ายผู้สูงอายุ 17 จังหวัดภาคเหนือเข้าร่วมจำนวน 250 คน สำหรับในการดำเนินการครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฏาคม 2562 ณ โรงแรมไม้หอมวิลล่า อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ และศึกษาดูงาน ณ สถานสงเคราะห์คนชราบ้านเขาบ่อแก้ว ตำบลนิคมเขาบ่อแก้ว และศูนย์ผู้สูงอายุเขาทอง ตำบลเขาทอง อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับความรู้เพิ่มประสบการณ์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ อันจะเป็นการปูพื้นฐานของสังคมไทยสู่สังคมผู้สูงอายุที่ดีในระยะยาว โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจาก ดร.กวิชช์ ธรรมิสร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และทีมงาน ตลอดจนองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทยที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการจัดสัมมนาครั้งนี้ นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ในฐานะประธานสมาพันธ์องค์การบริหารจังหวัดภาคเหนือ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) แล้วตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งในขณะนี้ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 10.4 % และยังคาดการณ์ว่าในปี 2571 ประเทศไทยจะมีผู้มีอายุกิน 60 ปีขึ้นไปประมาณ 23.5 % กล่าวโดยรวมประไทยจะก้าวจากสังคมผู้สูงอายุเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในเวลาเพียง 20 กว่าปีเท่านั้น ซึ่งถือว่าใช้เวลาน้อย ทำให้มีเวลาเตรียมตัวน้อยหรือคนชรามากขึ้น สัดส่วนคนทำงานลดลง ผลผลิตโดยรวมก็จะลดลง ส่งผลให้รายได้ของประเทศลดลงจนเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจของประเทศได้ รวมถึงปัญหาต่างๆ ตามมา จนเป็นภาระแก่สังคมที่ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลจัดสวัสดิการต่างๆ ให้เหมาะสมและเพียงพอ ซึ่งทั้งหมดเป็นปัญหาที่ทุกภาคส่วนในสังคมพึงร่วมกันสร้างค่านิยม โครงสร้างทางสังคมและเตรียมความพร้อมในการเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเพื่อให้การเสริมสร้างสุขภาวะของผู้สูงอายุ และการสร้างสังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทางสมาพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคเหนือ จึงได้จัดโครงการประชุมสัมมนาและศึกษาดูงานในหัวข้อ "บทบาทของท้องถิ่นกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสังคมผู้สูงอาย Aging Society" ขึ้น ซึ่งในการดำเนินการครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 กรกฏาคม 2562 ณ โรงแรมไม้หอมวิลล่า อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ และศึกษาดูงาน ณ สถานสงเคราะห์คนชราบ้านเขาบ่อแก้ว ตำบลนิคมเขาบ่อแก้ว และศูนย์ผู้สูงอายุเขาทอง ตำบลเขาทอง อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับความรู้เพิ่มประสบการณ์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ อันจะเป็นการปูพื้นฐานของสังคมไทยสู่สังคมผู้สูงอายุที่ดีในระยะยาวต่อไป.