วันที่ 3 ตุลาคม 2564 ว่าที่ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้รับมอบหมายจาก นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ให้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่หมู่ที่ 9 บ้านคลองมะขาม ตำบลหนองแขมอำเภอพรหมพิราม ร่วมกับ นายดาวรุ่ง เทพารักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 บ้านคลองมะขาม และผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่นในอำเภอพรมพิราม พร้อมทั้งมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 9 ครัวเรือน จากนั้นลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่หมู่ที่ 12 บ้านคลองเมม ตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิราม จำนวน 19 ครัวเรือนร่วมกับ นางสาวมยุรี คงพ่วง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 บ้านคลองเมม หลังมีมวลน้ำจำนวนมากจากจังหวัดสุโขทัยไหลบ่ามายังพื้นที่ตำบลหนองแขมและตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิราม ก่อนไหลเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนเบื้องต้นจากสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ให้แก่ประชาชนต่อไป.

วันที่ 2 ตุลาคม 2564 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก มอบหมายให้ นายธวัชชัย พึ่งสมบัติ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก นำเจ้าหน้าที่กองช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมเครื่องจักรกลเข้าดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมถนนชำรุดที่บริเวณถนนเลียบทางรถไฟบ้านเต็งหนาม หมู่ที่ 11 ตำบลหัวรอ อำเภอเมืองพิษณุโลก เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยการประสานของ ว่าที่ร้อยตรี ประเชิญ เพชรจันทร์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เขตอำเภอเมืองพิษณุโลก ซึ่งพบว่าพื้นผิวถนนชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อและบางจุดมีน้ำท่วมขังสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาอย่างมาก เนื่องจากในห้วงที่ผ่านมามีฝนตกชุกประกอบทั้งมีรถใช้เส้นทางนี้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งรถบรรทุกหนักได้วิ่งผ่านด้วย โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่กองช่างได้ดำเนินการนำหินคลุกถมบริเวณผิวถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อพร้อมทั้งบดอัดฐานรากให้แน่นเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้แก่ประชาชน.

วันที่ 2 ตุลาคม 2564 ว่าที่ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายจรวย ดีแล้ว สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เขตอำเภอเมืองพิษณุโลก ได้รับมอบหมายจาก นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ออกเยี่ยมเยียนให้กำลังใจครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัย จำนวน 4 ครัวเรือน ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมืองพิษณุโลก ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำโดย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นางวัชรินทร์ จิตรวิเศษ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก นางเนาวรัตน์ เอกภาพันธ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก สำนักงานประชาสัมพันธ์ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง และผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่น โดยผู้ประสบอัคคีภัยทั้ง 4 ครัวเรือนประกอบด้วย 1.ร้อยโทสน เนียมหอม บ้านเลขที่ 24/2 หมูที่ 4 ตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมืองพิษณุโลก ได้รับความเสียหายทั้งหลัง 2.นางบำรุง จันทรา บ้านเลขที่ 24 หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมืองพิษณุโลก ได้รับความเสียบางส่วน 3.นางอ๊อย คงสวัสดิ์ บ้านเลขที่ 54 หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมืองพิษณุโลก ได้รับความเสียบางส่วน 4.นายไพศาล คงสวัสดิ์ บ้านพักอยู่ระหว่างการก่อสร้างและดำเนินการขอบ้านเลขที่อยู่ ได้รับความเสียบางส่วน พร้อมกันนี้เหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก ได้มอบชุดเครื่องอุปโภค-บริโภคให้แก่ครอบครัวของผู้ประสบอัคคีภัยเพื่อให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น.

วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ว่าที่ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้รับมอบหมายจาก นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบถนนสายหมู่ที่ 2 บ้านคลองตก เชื่อมต่อกับหมู่ที่ 3 บ้านท้องโพลง ตำบลดงประคำ อำเภอพรหมพิราม ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เกิดชำรุดเสียหายและได้รับการร้องขอจากประชาชนในพื้นที่เพื่อให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกช่วยดำเนินการซ่อมแซมถนนดังกล่าว โดยการประสานผ่านทาง นายศิริโภชน์ ธเนศราภา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เขตอำเภอพรหมพิราม จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมด้วย นายสำรวย ม่วงคำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านคลองตก และนายดำเนิน เพชรพล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านท้องโพลง พบว่าผิวจราจรเสื่อมสภาพจึงทำให้เกิดเป็นหลุมเป็นบ่อนับสิบจุดและเกรงว่าประชาชนที่สัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าวจะเกิดอุบัติเหตุและได้รับอันตราย ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก จะเร่งดำเนินการซ่อมแซมถนนดังกล่าวอย่างเร่งด่วนเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนต่อไป.