มาโนช บุญยัง
วันที่ 17 ตุลาคม 2562 ว่าที่ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมเป็นเกียรติในงานวันตำรวจ ประจำปี 2562 ของตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก โดยมี พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธี และมี นายชัชพงศ์ เอมะสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก แขกผู้มีเกียรติ และข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกร่วมพิธีจำนวนมาก ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ตำบลหัวรอ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ภายในงานมีการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กำลังพลของตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกที่ล่วงลับไปแล้วและเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมทั้งมีการมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตร-ธิดาของข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ทั้งนี้สำหรับวันตำรวจ เดิมตรงกับวันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี และได้มีการประกอบพิธีวันตำรวจอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2492 กระทั่งเมื่อปี 2560 พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงวันตำรวจไทย ให้เป็นวันที่ 17 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันสถาปนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2541 เนื่องจากวันที่ 13 ตุลาคม ตรงกับวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงเปลี่ยนแปลงเพื่อเป็นการแสดงความเคารพเทิดทูนพระองค์.
วันที่ 13 ตุลาคม 2562 ที่ห้องคอนเวนชั่น ศูนย์วัฒนธรรมภาคเหนือตอนล่าง วังจันทน์ริเวอร์วิว อำเภอเมืองพิษณุโลก นายอาคม ตรีเจริญ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก นำข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมพิธีจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถพิตร รัชกาลที่ 9 โดยมี นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีนำหัวหน้าส่วนราชการ ตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพสกนิกร ร่วมประกอบพิธีเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ จากนั้นประธานและผู้ร่วมพิธีจุดเทียนและยืนสงบนิ่งเพื่อน้อมรำลึกในพระ มหากรุณาธิคุณเป็นเวลา 89 วินาที เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ ทรงทุ่มเทพระวรกายและพระสติปัญญา คิดค้นโครงการในพระราชดำริหลายพันโครงการ อันเป็นประโยชน์อย่างอเนกอนันต์ต่อประเทศชาติ โดยจะน้อมนำแนวทางตามที่พระองค์ได้พระราชทานไว้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติตนเพื่อสร้างประโยชน์สุขแห่งประชาชนและประเทศชาติสืบไป.