มาโนช บุญยัง
วันที่ 8 เมษายน 2562 ที่ศาลหลักเมืองพิษณุโลก อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก นายมนต์ชัย วิวัฒน์ ธนาฒน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมหัวหน้าส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมพิธีบวงสรวงสมโภชศาลหลักเมืองพิษณุโลก ประจำปี 2562 ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนและนักท่องเที่ยว จัดโดยจังหวัดพิษณุโลกร่วมกับอำเภอเมืองพิษณุโลก ส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก และองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ของอำเภอเมืองพิษณุโลก โดยมี นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทยเป็นหลักชัยหลักใจและเป็นศูนย์รวมน้ำใจให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีของชาวจังหวัดพิษณุโลก
สำหรับศาลหลักเมืองจังหวัดพิษณุโลกสร้างขึ้นที่บริเวณริมแม่น้ำน่านฝั่งตะวันตก ตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอเมืองพิษณุโลก ออกแบบอาคารโดยกรมศิลปากร เป็นแบบยอดปรางค์ มีฐานกว้าง 16.60 เมตรสูง 10.65 เมตร ซึ่งจัดสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 8 เมษายน พุทธศักราช 2540 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร พระอิสริยยศของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในขณะนั้นเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์มาทรงเปิดศาลหลักเมืองพิษณุโลก โดยเสาหลักเมืองพิษณุโลกทำจากไม้มงคลหลายชนิดประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ส่วนลำต้น จากโคนลำต้นถึงลูกฟัก ทำจากไม้ราชพฤกษ์ ส่วนที่ 2 เป็นท่อนลูกแก้ว ทำจาก ไม้ชิงชัน ส่วนที่ 3 เป็นส่วนยอด ยอดบัวตูมประกอบด้วยลูกแก้วทำจากไม้สักทองตายพรายและได้นำไปเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ดังนั้นในทุกๆ ปี จังหวัดพิษณุโลกจึงร่วมกับอำเภอเมืองพิษณุโลกจัดงานบวงสรวงสมโภชขึ้นในวันที่ 8 เมษายน ของทุกปี เพื่อความเป็นสิริมงคลและกระตุ้นให้ประชาชนในจังหวัดพิษณุโลกได้ตระหนักและเห็นคุณค่าความสำคัญของศาลหลักเมืองพิษณุโลกซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไป.
วันที่ 6 เมษายน 2562 ที่บริเวณสระสองห้อง ภายในโบราณสถานพระราชวังจันทน์ อำเภอเมืองพิษณุโลก นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ หัวหน้าส่วนราชการและข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์สระสองห้องเพื่อทำน้ำอภิเษกเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกร บดินทรเทพยวรางกูร โดยมี นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย ข้าราชการ และพสกนิกรชาวพิษณุโลก กว่า 15,000 คน เข้าร่วมพิธี จากนั้นได้จัดขบวนอัญเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปประกอบพิธีเสกน้ำอภิเษกตามโบราณราชประเพณีที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อำเภอเมืองพิษณุโลก ระยะทาง 1 กิโลเมตร โดยจะมีพิธีในวันที่ 8 -9 เมษายน 2562 นี้ จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกจะนำน้ำอภิเษกไปประกอบพิธีปลุกเสกน้ำรวมที่วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหารในวันที่ 18-19 เมษายน 2562 เพื่อนำไปใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ต่อไป.
วันที่ 6 เมษายน 2562 ว่าที่ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายอาคม ตรีเจริญ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก นำหัวหน้าส่วนราชการและข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะเนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ ประจำปี 2562 ซึ่งตรงกับวันที่ 6 เมษายนของทุกปี ณ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ถนนบรมไตรโลกนารถ อำเภอเมืองพิษณุโลก เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และพระมหากษัตริย์ในมหาจักรีบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ที่มีต่อประเทศชาติและประชาชน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจร่วมพิธีจำนวนมาก.
วันที่ 5 เมษายน 2562 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายจเร ภู่ศรี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เขตอำเภอเมืองพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่กองส่งเสริมคุณภาพชีวิต องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก นำรถเข็นนั่งสำหรับผู้พิการไปมอบให้แก่ นายนรัตน์ บุญผดุง อยู่บ้านเลขที่ 1/13 หมู่ที่ 10 ตำบลวัดจันทร์ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีความพิการทางด้านการเคลื่อนไหวเนื่องจากลื่นล้มในห้องน้ำจนทำให้เป็นอัมพฤกษ์มาเป็นเวลากว่า 8 ปี เพื่อให้ความช่วยเหลือตามโครงการ “อบจ.พิษณุโลก ปันน้ำใจ ไม่ทิ้งกัน” ที่ต้องการให้ผู้พิการสามารถช่วยเหลือตนเองได้และได้รับความสะดวกในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ ตลอดจนเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของผู้ดูแลในการช่วยเหลือผู้พิการและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป.