มาโนช บุญยัง
วันที่ 6 มกราคม 2562 ที่บริเวณลานเอนกประสงค์หมู่ที่ 13 บ้านน้ำจวง ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายสุทัศน์ วงษ์ทับทิม นายอำเภอชาติตระการ นายพีรากร ราชเพียรแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อภาค และนายมนิตย์ สีฆสัมบันน์ นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จังหวัดพิษณุโลก ร่วมเปิดงานปีใหม่ม้ง 2019 บ้านน้ำจวง หมู่ 13 และ บ้านน้ำจวงใต้ หมู่ 16 โดยมี นายยี แซ่หยาง ผู้ใหญ่บ้านน้ำจวง ตลอดจนชาวบ้านน้ำจวงทั้ง 2 หมู่บ้านให้การต้อนรับ สำหรับเทศกาลปีใหม่ม้งบ้านน้ำจวง จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยปีใหม่ม้งนั้นจะตรงกับขึ้น 1 ค่ำ เดือน 2 ของทุกปี ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-14 มกราคม 2562 เพื่อสืบสานสืบทอดประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของชาวบ้านน้ำจวงให้กับคนรุ่นหลังจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งแสดงออกถึงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สื่อถึงประวัติความเป็นมาของชนเผ่าม้งอย่างแท้จริง โดยในวันปีใหม่ม้งนั้นชาวไทยภูเขาเผ่าม้งทุกเพศทุกวัยจะได้มีโอกาสมาพบปะสังสรรค์และได้สนุกสนานร่วมกันนับเป็นการสร้างความรัก ความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ภายในงานจะมีการแต่งกายด้วยชุดประจำเผ่าหลากสีสันสวยงาม และมีกิจกรรมการละเล่นที่สนุกสนาน เช่น โยนลูกช่วง การร้องเพลง การเต้นรำ การเป่าแคนม้ง การเป่าจา การเป่าขลุ่ย นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน เช่น ยิงหน้าไม้ ตีลูกข่าง แข่งฟอมูล่าม้ง เป็นต้น ส่วนไฮไลท์ของงาน คือ การชิมข้าวใหม่ม้งที่ชาวบ้านช่วยกันหุงสุกใหม่ๆ และการต้มไข่ไก่แจกผู้มาร่วมงานคนละฟอง ซึ่งเป็นไข่ที่ผ่านพิธีกรรมสู่ขวัญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและสนุกสนาน.
วันที่ 4 มกราคม 2562 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายเชาวลิต บุญก่อ นายปกรณ์ หงษ์วิเศษ และนายวรชาติ ศุภกิจเจริญ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เขตอำเภอบางระกำ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมดนตรีพื้นบ้านมังคละ จังหวัดพิษณุโลก ประจำปี 2562 ณ หอประชุมโรงเรียนวัดพรหมเกษร ตำบลชุมแสงสงคราม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก โดยมี นายวินัย สุคันธวรัตน์ ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ ภายในพิธีมีคณะผู้บริหารและครูของโรงเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นร่วมพิธีเปิดโครงการจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริม อนุรักษ์ สืบสานและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้านมังคละให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อปลูกจิตสำนึกให้แก่เด็กและเยาวชนให้เกิดความรัก หวงแหนศิลปวัฒนธรรมอันดีงามที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์ไว้ให้คงอยู่สืบไป ตลอดจนเพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนกล้าแสดงออกและใช้ความสามารถด้านดนตรีเป็นสื่อเข้าร่วมกิจกรรมกับชุมชนท้องถิ่นได้มากยิ่งขึ้นต่อไป
สำหรับดนตรีพื้นบ้านมังคละ เป็นวงดนตรีพื้นบ้านที่มีบทบาทสำคัญในฐานะศิลปะดนตรีพื้นบ้านเมืองพิษณุโลกและภูมิภาคภาคเหนือตอนล่าง มีรูปแบบและวิธีการเล่นที่มีแบบฉบับของตนเอง และมีลักษณะเฉพาะตัว เป็นวงปี่กลองชนิดหนึ่งที่ใช้เล่นกันแพร่หลายในจังหวัดพิษณุโลกมาเป็นเวลาช้านานแล้ว และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ สาขาศิลปะการแสดง นับเป็นความภาคภูมิใจของชาวพิษณุโลกและในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมวัฒนธรรม มีดนตรี แตรวง และดนตรีสมัยใหม่มากขึ้นทำให้วงปี่กลองมังคละเสื่อมความนิยมลงไปมาก จึงจำเป็นต้องได้รับการถ่ายทอดความรู้ให้แก่เด็ก เยาวชนและประชาชน องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก จึงร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลกและชมรมอนุรักษ์ดนตรีพื้นบ้านมังคละจังหวัดพิษณุโลกจัดโครงการฝึกอบรมดนตรีพื้นบ้านมังคละให้แก่เด็กและเยาวชนจังหวัดพิษณุโลก ขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 มกราคม 2562 รวม 3 วัน 2 คืน แบบพักค้างคืน โดยมีโรงเรียนในจังหวัดพิษณุโลกส่งนักเรียนเข้าร่วมฝึกอบรมจำนวน 12 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนวัดน้ำคบ โรงเรียนวัดคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์, โรงเรียนวัดจอมทอง โรงเรียนวัดหนองหัวยาง โรงเรียนบ้านนาชักหวาย อำเภอเมืองพิษณุโลก, โรงเรียนบ้านเนินทอง อำเภอชาติตระการ, โรงเรียนบ้านมุง อำเภอเนินมะปราง, โรงเรียนวัดหนองพะยอม โรงเรียนบ้านคลองน้ำเย็น โรงเรียนบ้านใหม่เจริญธรรม โรงเรียนบ้านหนองขานาง และโรงเรียนวัดพรหมเกษร อำเภอบางระกำ รวมทั้งสิ้นจำนวน 150 คน โดยได้รับเกียรติจาก เรืออากาศตรีประโยชน์ ลูกพลับ ประธานชมรมอนุรักษ์ดนตรีพื้นบ้านมังคละจังหวัดพิษณุโลก พร้อมคณะวิทยากรมาถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจและพัฒนาทักษะด้านดนตรีมังคละให้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม พร้อมทั้งมีการแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติดนตรีพื้นบ้านแต่ละประเภทอีกด้วย.
วันที่ 1 มกราคม 2562 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมคณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2562 ณ บริเวณสี่แยกธนาคารกรุงไทย สาขาพิษณุโลก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยเทศบาลนครพิษณุโลก โดยมี นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีนำพุทธศาสนิกชนชาวพิษณุโลกร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุ 500 รูป เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2562 และในวันที่ 1 มกราคม 2562 นับเป็นการเริ่มต้นวันแรกของปีศักราชใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวในการเริ่มต้นปีใหม่ สำหรับภายในกิจกรรมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ครั้งนี้ เริ่มพิธีโดย นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระศรีรัตนมุนี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก กล่าวสัมโมถนียคาถา และผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกกล่าวอวยพรแก่ประชาชนชาวพิษณุโลกที่มาร่วมตักบาตร จากนั้นพระภิกษุ สามเณร จำนวน 500 รูป ออกรับบิณฑบาตตามถนนสายต่างๆ จำนวน 5 สายทั่วเมืองพิษณุโลก และมีพระวรญาณมุนี หรือ หลวงตาละมัย เจ้าอาวาสวัดอรัญญิก ประพรมน้ำมนต์ให้แก่ประชาชนจำนวนมากที่มารอตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งบริเวณสองข้างทางตามถนนสายต่างๆ กันอย่างคึกคัก.
วันที่ 29 ธันวาคม 2561 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก มอบหมายให้ ว่าที่ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นางสาวกมลชนก เหลืองทองนารา เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลประเพณีบ้านนาขุม ครั้งที่ 27 “เวียงเหนือเกมส์” ระหว่างวันที่ 29-31 ธันวาคม 2561 ณ โรงเรียนวัดนาขุม ตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก โดยมี นายวัทธิกร อภิวงศ์ ในนามประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขัน สำหรับการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ 27 โดยคุ้มบ้านเหนือ ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายและสร้างความรักความสามัคคีภายในหมู่บ้านนาขุมและส่งเสริมให้คนในหมู่บ้านได้รู้จักกันโดยใช้กีฬาฟุตบอลเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจำนวน 8 คุ้ม และแบ่งการแข่งขันเป็น 2 ประเภท คือ ประเภททีมชายและประเภททีมหญิง จำนวน 4 สาย ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันจะมีการ่วมเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2562 อีกด้วย.