วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 เวลา 10.00 น. ว่าที่ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายศิริชิน หาญพิทักษ์พงศ์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก นายอิฐเรศ รำพึงดี นายช่างเครื่องกลอาวุโส ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักปลัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้รับมอบหมายจาก นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ให้ติดตามการดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาลในพื้นที่หมู่ 2 บ้านศรีเจริญ ตำบลทับยายเชียง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้งให้แก่ราษฎรในพื้นที่ได้มีน้ำสะอาดไว้ใช้อุปโภคบริโภค ซึ่งบ่อนี้เป็นบ่อที่ 8 จากจำนวนทั้งสิ้น 20 บ่อ ของโครงการน้ำสะอาดสู่ประชาชนเพื่อท้องถิ่นไทย ในจังหวัดพิษณุโลก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 โดยมี นายวิโรจน์ แจงทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทับยายเชียง, นายสมศักดิ์ สอนเชียง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลทับยายเชียง นายศุภกิจ อ้นสิงห์มา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 และเจ้าหน้าที่กองช่าง องค์การบริหารส่วนตำบลทับยายเชียง ร่วมให้ข้อมูล เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาลที่ระดับความลึก 60 เมตร ได้ปริมาณน้ำประมาณ 10,000 ลิตร ต่อชั่วโมง ซึ่งมีปริมาณเพียงพอให้ราษฎรทั้งหมู่บ้านกว่า 280 หลังคาเรือน ประชากรกว่า 1,000 คน ที่กำลังขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคได้มีน้ำสะอาดไว้ใช้อุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้งปีนี้.

วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายเชาวลิต บุญก่อ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เขตอำเภอบางระกำ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินโครงการก่อสร้างถนนผิวจราจร คสล.ยกระดับสายบ้านวังกุ่ม-ศรีมงคล หมู่ที่ 15 ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ เชื่อมต่อกับตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก มีความกว้าง 6 เมตร ยาว 520 เมตร ซึ่งเริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 และใกล้จะแล้วเสร็จภายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2564 นี้ สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ.2564 องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก มีโครงการก่อสร้างและปรับปรุงถนนในจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 162 โครงการ เพื่อต้องการให้ประชาชนได้ใช้สัญจรสะดวกและปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น

วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ว่าที่ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้รับมอบหมายจาก นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ให้ลงพื้นติดตามความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มต่ำของตำบลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก โดยมี นายสมศักดิ์ ชุ่มแจ่ม นายอำเภอพรหมพิราม นายนุกูล พูลทองคำ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมเครื่องจักรกล โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลายชุมพล สำนักชลประทานที่ 3 นายบุญโลม มากเมือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 บ้านห้วยดั้ง และเจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลายชุมพล สำนักชลประทานที่ 3 ร่วมลงพื้นที่ติดตามให้ความช่วยเหลือเกษตรกร จากการร้องขอจากผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่นให้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำพร้อมท่อระบายน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 8 เครื่อง เพื่อสูบน้ำจากแม่น้ำยมสายเก่าลงสู่คลองหนองแสงและผันน้ำไปให้เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่หมู่ 10, 11, 13 ตำบลพรหมพิราม รวมพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ และพื้นที่บางส่วนของหมู่ที่ 9 บ้านคลองวังมะขาม ตำบลหนองแขม อำเภอพรหมพิราม พื้นที่ 300-400 ไร่ ได้ใช้ทำการเกษตร เบื้องต้นได้หารือร่วมกับผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่นและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนน้ำได้ข้อสรุปคือ เรื่องการส่งน้ำ เนื่องจากห้วงเวลาในการสูบแต่ละวันไม่เพียงพอกับชาวนาในพื้นที่จึงได้ขอให้ขยายเวลาการสูบน้ำในแต่วันให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อเกษตรกรที่อยู่ปลายน้ำได้ทำนาในระยะเริ่มต้นของการเพาะปลูกข้าว ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวที่ได้สูบน้ำช่วยนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำหากเพาะปลูกข้าวล่าช้าเกินไปก็จะเกิดน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝนที่น้ำไหลหลากจนไม่สามารถเพาะปลูกข้าวทำนาได้ รวมทั้งไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทันน้ำท่วมของทุกปี และเรื่องการขอย้ายจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำตามการร้องขอของเกษตรกร ทั้งนี้เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้แก่เกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดังกล่าว ท่ามกลางความพึงพอใจของเกษตรกรในพื้นที่เป็นอย่างมาก.

วันที่ 29 เมษายน 2564 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริบูลยราชกุมาร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน 2564 ณ วัดคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับวัดคูหาสวรรค์กำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติขึ้น โดยมี นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมกันทำความดีถวายพระราชกุศล แสดงออกถึงความจงรักภักดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ นำหลักธรรมคำสอนทางศาสนามาใช้ในการดำเนินชีวิต สืบสานวัฒนธรรมประเพณี อันเกี่ยวเนื่องกับสถาบันหลักของชาติ และเสริมสร้างความรักสามัคคีของประชาชนในชาติให้มั่นคงสืบไป.