อบจ.พิษณุโลก ร่วมเปิดโครงการประกวดการทำอาหาร Street Food สร้างอาชีพ ระดับภาค “สร้างงานสร้างอาชีพ คืนคนดีสู่สังคม”

วันพฤหัสบดี, 27 มกราคม 2565
อ่าน 59 ครั้ง
วันที่ 26 มกราคม 2565 ว่าที่ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้รับมอบหมายจาก นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ให้เข้าร่วมกล่าวต้อนรับคณะผู้จัดการประกวดและผู้เข้าร่วมการประกวดโครงการประกวดการทำอาหาร Street Food สร้างอาชีพ ระดับภาค “สร้างงานสร้างอาชีพ คืนคนดีสู่สังคม” ณ วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก อำเภอเมืองพิษณุโลก โดยมี นายบุญเหลือ บารมี ปลัดจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธี และมี นายนพนันต์ ทับทิม ประธานอาสาสมัครคุมประพฤติภาค 6 กล่าวรายงาน ทั้งนี้กรมคุมประพฤติ มีนโยบายในการสนับสนุนให้ผู้กระทำผิดได้มีอาชีพสามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยการฝึกอาชีพส่งเสริมให้มีงานทำและมอบทุนประกอบอาชีพ รวมทั้งเสริมสร้างบทบาทของอาสาสมัครคุมประพฤติให้เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการคืนคนดีสู่สังคมอย่างครบวงจร ประกอบกับเพื่อให้ผู้กระทำผิดที่ชนะการประกวดการทำอาหารระดับจังหวัดได้รับการพัฒนาทักษะฝีมือด้านการทำอาหารและเพื่อแสดงถึงพลังในการให้ความร่วมมือของอาสาสมัครคุมประพฤติ ตลอดจนภาคีเครือข่ายในการคืนคนดีสู่สังคม จึงได้ดำเนินการจัดงานประกวดการทำอาหาร Street Food สร้างอาชีพ ระดับภาคขึ้น โดยกิจกรรมในช่วงเช้ามีการจัดโครงการอบรมวิชาชีพตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน ซึ่งได้รับเกียรติจากคุณอำนาจ คำนำ เชฟจากสมาคมเชฟประเทศไทย เป็นวิทยากร ส่วนในภาคบ่ายมีการประกวดการทำอาหารในระดับภาค ซึ่งมีผู้ถูกคุมประพฤติในคดีต่างๆ ที่ชนะเลิศการประกวดการทำอาหารจาก 9 จังหวัด เข้าร่วมประกวด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์, กำแพงเพชร, สุโขทัย, ตาก, พิจิตร, อุทัยธานี, อุตรดิตถ์, เพชรบูรณ์ และจังหวัดพิษณุโลก เข้าร่วมการประกวด ซึ่งผู้ที่ชนะเลิศการประกวดการทำอาหาร Street Food สร้างอาชีพ ระดับภาคในครั้งนี้จะได้ไปเข้าร่วมการประกวดในระดับประเทศต่อไป สำหรับในการจัดการประกวดครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานในสังกัดสำนักงานคุมประพฤติในเขตภาค 6, อาสาสมัครคุมประพฤติภาค 6 , หัวหน้าส่วนราชการ, ผู้ทรงคุณวุฒิด้านอาหาร, สถานประกอบการ, ภาคเอกชน, วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก และสมาคมเชฟประเทศไทย ให้การสนับสนุนวิทยากร และอาสาสมัครคุมประพฤติในสังกัดภาค 6 ได้ให้การสนับสนุนในการจัดประกวดครั้งนี้.