อบจ.พิษณุโลก ร่วมกับ ปภ.เขต 9 เร่งสูบน้ำผลิตประปาหมู่บ้านช่วยเหลือราษฎร ต.ดอนทอง-ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก กว่า 3,000 คน ใช้อุปโภคบริโภค

วันจันทร์, 20 กรกฎาคม 2563
อ่าน 207 ครั้ง
วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 ว่าที่ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้รับการประสานจาก นายมนตรี หลิมเจริญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านบึงถัง ตำบลดอนทอง อำเภอเมืองพิษณุโลก เพื่อขอให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ช่วยประสานงานกับทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 9 (ปภ.เขต 9) นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาสูบน้ำที่บริเวณบึงถัง หมู่ที่ 3 ตำบลดอนทอง อำเภอเมืองพิษณุโลก ซึ่งทางกองช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้ดำเนินการขุดลอกวัชพืชและผักตบชวา ตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ คลองสะอาด ปราศจากวัชพืช ประจำปีงบประมาณ 2563 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งมีลักษณ์เป็นบึงย่อยจำนวน 3 บึงติดกัน โดยทำการสูบน้ำจากบึงที่มีน้ำจำนวนมากไปกักเก็บไว้ภายในบึงที่กำลังจะแห้งขอดเพื่อใช้สำหรับกักเก็บน้ำไว้ผลิตน้ำประปาหมู่บ้านให้แก่ราษฎรในพื้นที่ 2 ตำบล คือ ดอนทอง และตำบลหัวรอบางส่วนได้ใช้อุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ โดยในการดำเนินการครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการสูบน้ำจากองค์การบริหารส่วนตำบลดอนทอง เพื่อใช้เป็นน้ำต้นทุนในการผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน ทั้งนี้สำหรับสถานีสูบน้ำประปาดังกล่าวได้สูบน้ำจากบึงถัง มาใช้ผลิตน้ำประปาหมู่บ้านส่งไปหล่อเลี้ยงราษฎรในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านบึงถัง จำนวน 369 ครัวเรือน , หมู่ที่ 4 บ้านตาลสุวรรณ กว่า 500 ครัวเรือน รวมทั้งตำบลหัวรอ ซึ่งมีพื้นที่ติดกันอีกจำนวน 24 ครัวเรือน รวมประชากรที่ได้รับประโยชน์ครั้งนี้กว่า 3,000 คน อีกทั้งยังใช้เป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรให้แก่เกษตรกรในพื้นที่หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 12 ของตำบลดอนทองอีกด้วย โดยบึงถังแห่งนี้เป็นบึงย่อยติดกัน จำนวน 3 บึง มีเนื้อที่รวมทั้งสิ้น 74 ไร่ เป็นแหล่งรองรับน้ำจากน้ำบนเขาที่ไหลผ่านบ้านน้ำดำ บ้านร้องยุ้งข้าว บ้านหนองกวางลี้ บ้านสะอักและบ้านไร่ ก่อนจะไหลมารวมอยู่ที่บ้านบึงถัง โดยในปีนี้มีปริมาณน้ำค่อนข้างน้อยเนื่องจากฝนทิ้งช่วง แต่ก็ยังสามารถสูบน้ำจากบึงข้างเคียงที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกได้ดำเนินการขุดลอกวัชพืชและผักตบชวาเพื่อเพิ่มระดับความลึกและขนาดของบึงให้กว้างขึ้นสามารถกักเก็บน้ำได้อย่างเต็มพื้นที่ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยในการดำเนินการครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในการช่วยเหลือประชาชนเป็นอย่างยิ่ง.