วันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ว่าที่ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นางสาวกมลชนก เหลืองทองนารา เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก นายศิริชิน หาญพิทักษ์พงศ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เขตอำเภอพรหมพิราม นายสมบุญ บุญญเศรษฐโชติ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมคุณภาพชีวิต องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก และนายทรงธรรม เกิดคุณธรรม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลศรีภิรมย์ นำรถสามล้อโยกและรถเข็นนั่งไปมอบให้กับผู้พิการในพื้นที่ตำบลศรีภิรมย์ อำเภอพรหมพิราม ตามโครงการ “อบจ.พิษณุโลก ปันน้ำใจ ไม่ทิ้งกัน” จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย นายวรรณา พรมแดน อายุ 63 ปี (รถสามล้อโยก) อยู่บ้านเลขที่ 91/1 หมู่ที่ 3 ตำบลศรีภิรมย์ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีความพิการทางการเคลื่อนไหวเนื่องจากเป็นอัมพฤกษ์ซีกขวามาเป็นเวลา 10 ปี ปัจจุบันอาศัยอยู่เพียงลำพังทำให้ใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบาก ส่วนรายที่สองคือ นางทัน จันทร์พะโยม อายุ 83 ปี (รถเข็นนั่ง) อยู่บ้านเลขที่ 236 หมู่ที่ 12 ตำบลศรีภิรมย์ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก มีความพิการทางการเคลื่อนไหวเนื่องจากแขนขาอ่อนแรง ต่อจากนั้น ว่าที่ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะศิริ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายสิทธิพร ใบบริบาลกุล ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก และคณะนำรถเข็นนั่งสำหรับผู้พิการมอบให้กับ นางจำปา คงเอี่ยม อายุ 87 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ที่ 5 ตำบลหินลาด อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก มีความพิการทางการเคลื่อนไหว เนื่องจากป่วยเป็นโรคเก๊าต์ทำให้มีอาการปวดขาร่วมกับแขนขาอ่อนแรง ทั้งนี้เพื่อให้ผู้พิการสามารถช่วยเหลือตนเองได้และได้รับความสะดวกในการดำเนินชีวิตหรือประกอบอาชีพ รวมทั้งเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของผู้ดูแลในการช่วยเหลือผู้พิการและให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ท่ามกลางความดีใจของผู้พิการและญาติ.

วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายปกรณ์ หงษ์วิเศษ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก นายวรชาติ ศุภกิจเจริญ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เขตอำเภอบางระกำ และนายสมบุญ บุญญเศรษฐโชติ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมคุณภาพชีวิต องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก นำรถสามล้อโยกไปมอบให้แก่ผู้พิการ 3 ราย ในพื้นที่อำเภอบางระกำ ประกอบด้วย นางสาวธาวัลย์ สิงห์เรือง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/1 หมู่ที่ 4 ตำบลปลักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ชนรถบรรทุกสิบล้อ และเมื่อรักษาหายปกติได้มาทำงานก่อสร้างอย่างหนักจนมีอาการชัก หลังจากนั้นก็ไม่สามารถเดินได้เนื่องจากขาข้างซ้ายตึง แต่แขนทั้งสองข้างยังแข็งแรง จึงต้องการรถสามล้อโยกเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิต จากนั้นนำรถสามล้อโยกไปมอบให้แก่ นายชุมพล คุ้มภัย อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ที่ 3 ตำบลหนองกุลา อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก มีความพิการทางการเคลื่อนไหว เนื่องจากขาทั้งสองข้างอ่อนแรงจนเดินไม่ได้มาเป็นเวลา 2 ปี ปัจจุบันพักอาศัยอยู่กับภรรยาสองคน มีอาชีพทำไม้กวาดทางมะพร้าวขาย และอีกรายคือ นายชาติชาย ขวัญคง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/2 หมู่ที่ 3 ตำบลหนองกุลา อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีความพิการทางการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่กำเนิด ขาขวารีบไม่สามารถใช้งานได้ ปัจจุบันพักอาศัยอยู่คนเดียว มีอาชีพรับจ้างถางหญ้าและรับจ้างทั่วไป ทั้งนี้เพื่อให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นตามโครงการ “อบจ.พิษณุโลก ปันน้ำใจ ไม่ทิ้งกัน” ที่ต้องการให้ผู้พิการสามารถช่วยเหลือตนเองได้และได้รับความสะดวกในการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ ตลอดจนเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของผู้ดูแลในการช่วยเหลือผู้พิการและมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป.

วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายวิเชียร ภักดี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เขตอำเภอวังทอง นายชมภู จันทร์เชื้อ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก และ นายอธิธัช ศิริกุลเมทิกา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลชัยนาม ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาลตามโครงการน้ำสะอาดสู่ประชาชนเพื่อท้องถิ่นไทย ในจังหวัดพิษณุโลก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ให้กับประชาชนในพื้นที่หมู่ 8 บ้านส้มม่วง ตำบลชัยนาม อำเภอวังทอง ภายหลังได้รับการร้องขอจากทางองค์การบริหารส่วนตำบลชัยนาม เพื่อให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาล เนื่องจากพบว่าขณะนี้ประชาชนในพื้นที่กว่า 300 หลังคาเรือน กำลังได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้งอย่างหนัก เนื่องจากแหล่งน้ำที่มีอยู่ตามธรรมชาติที่ใช้ผลิตน้ำประปาหมู่บ้านแห้งขอดส่งผลให้ประชาชนขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่กำลังขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคได้ตลอดฤดูแล้งนี้ ทั้งนี้สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ.2563 องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก มีแผนดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาลในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกจำนวน 17 โครงการ โดยขณะนี้ได้ดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาลแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยจำนวน 11 โครงการ ประกอบด้วย อำเภอวังทอง จำนวน 4 โครงการ (หมู่ 3,19 ต.วังนกแอ่น, หมู่ 2,10 ต.หนองพระ), อำเภอพรหมพิราม จำนวน 6 โครงการ (หมู่ 2, 4, 5, 6 ต.ทับยายเชียง), อำเภอนครไทย 1 โครงการ (หมู่ 4 ต.บ่อโพธิ์), อยู่ระหว่างดำเนินการ 1 โครงการ ในอำเภอวังทอง (หมู่ 8 ต.ชัยนาม) และยังไม่ได้ดำเนินการอีกจำนวน 5 โครงการ ได้แก่ อำเภอวังทอง 2 โครงการ (หมู่ 2, 6 ต.ชัยนาม), อำเภอชาติตระการ 2 โครงการ (หมู่ 7,12 ต.บ่อภาค), อำเภอเมืองพิษณุโลก 1 โครงการ (หมู่ 14 ต.ดอนทอง) สำหรับพื้นที่ใดที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำสามารถร้องขอมาได้ที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก โทร. 055-987718-20 ต่อ 316 หรือ 317.

วันที่ 6 พฤษภาคม 2563 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายอาวุธ ยวนแห่ว เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ออกตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมทั้งสนับสนุนน้ำดื่ม หน้ากากอนามัย และเจลล้างมือให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานประจำจุดตรวจคัดกรองเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดพิษณุโลก ณ จุดตรวจที่ 9 แยกบ้านแยง ตำบลบ้านแยง อำเภอนครไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลห้วยเฮี้ย ดูแลด่านขาออก ส่วนเทศบาลตำบลบ้านแยง ดูแลด่านฝั่งขาเข้าจังหวัดพิษณุโลก และตรวจเยี่ยมจุดตรวจที่ 5 บ้านบ่อโพธิ์ ตำบลบ่อโพธิ์ อำเภอนครไทย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลเนิ่นเพิ่ม ดูแลด่านขาออก และองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อโพธิ์ ดูแลด่านขาเข้าจังหวัดพิษณุโลก จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมด่านตรวจท่างาม อำเภอวัดโบสถ์ ฝั่งขาเข้าจังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกคน โดยพบว่าทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งและเสียสละเพื่อชาวพิษณุโลก ทั้งนี้สำหรับจังหวัดพิษณุโลกได้ปรับเหลือเพียง 7 ด่านชั้นนอก คือ ด่านท่างาม อำเภอวัดโบสถ์, ด่านบ่อโพธิ์ ด่านบ้านแยง อำเภอนครไทย, ด่านสันติบันเทิง อำเภอบางกระทุ่ม, ด่านบ่อทอง อำเภอบางระกำ, ด่านคลองเมม อำเภอพรหมพิราม และด่านชาติตระการ อำเภอชาติตระการ.